แชร์

วิกฤตเงียบสังคมผู้สูงวัย ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคหมอนรองกระดูกเสื่อม

อัพเดทล่าสุด: 9 มิ.ย. 2025
30 ผู้เข้าชม

เปิดสัญญาณเตือนจาก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกสันหลัง เมื่อประเทศไทยกำลังก้าวสู่ "สังคมผู้สูงวัยเต็มรูปแบบ" อย่างรวดเร็ว ภายใต้การเปลี่ยนผ่านนี้ นอกจากประเด็นด้านเศรษฐกิจและโครงสร้างประชากร ยังมี "วิกฤตสุขภาพที่ซ่อนอยู่" ซึ่งกำลังคืบคลานเข้ามาโดยที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว นั่นคือ "โรคกระดูกสันหลังเสื่อมในผู้สูงวัย"



นพ.เมธี ภัคเวช แพทย์เฉพาะทางศัลยศาสตร์กระดูกสันหลัง ศูนย์ผ่าตัดส่องกล้อง KLD โรงพยาบาลคามิลเลียน แพทย์ที่มีประสบการณ์ผ่าตัดผู้ป่วยด้วยเทคนิคส่องกล้องมาแล้วกว่า 5,000 เคส รักษาคนไข้ที่มีอาการปวดเรื้อรังมามากกว่า 20,000 เคส เปิดเผยว่า ปัญหากระดูกสันหลังในสังคมไทยกำลังลุกลามแบบเงียบๆ โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มมีอาการจากความเสื่อมของหมอนรองกระดูกและการกดทับเส้นประสาท

ชีวิตหนักในอดีต สะสมเป็นโรคในวันนี้
ในพื้นที่ชนบท คนจำนวนมากเคยใช้แรงงานหนักตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ไม่ว่าจะเป็นการแบกของหนัก ขุดดิน ทำนา หรือทำงานก่อสร้าง สิ่งเหล่านี้แม้จะดูเป็นเรื่องปกติในยุคนั้น แต่ในมุมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ "กลับเป็น รากฐานของความเสื่อม" ที่เริ่มแสดงออกอย่างชัดเจนเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ "จากการประเมิน ผู้สูงวัยในชนบทมากกว่า 50% มีภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม กระดูกทรุด หรือเส้นประสาทถูกกดทับ" นพ.เมธีกล่าว

คนเมืองก็ไม่รอดโรคจาก พฤติกรรมดิจิทัล
ขณะเดียวกันในกลุ่มคนเมืองและวัยทำงาน ก็เผชิญความเสี่ยงอีกแบบที่ต่างออกไป พฤติกรรมการนั่งนาน ก้มหน้าใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ตลอดวัน กลายเป็นต้นตอของโรคหมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท ที่มีแนวโน้มพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง "ในช่วง 510 ปีที่ผ่านมา ผมเห็นเคสคนอายุน้อยที่มีอาการชาแขน ปวดคอ ไปจนถึงกล้ามเนื้ออ่อนแรงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ และสาเหตุหลักล้วนมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่" นพ.เมธี กล่าว

โครงสร้างทางพันธุกรรม ตัวแปรที่หลายคนมองข้าม
แม้พฤติกรรมจะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่นพ.เมธีเตือนว่า ไม่ใช่ทุกคนจะตอบสนองต่อความเสื่อมเหมือนกัน เพราะ "โครงสร้างทางพันธุกรรม" ของกระดูกสันหลัง ก็มีบทบาทอย่างมาก บางคนแม้หมอนรองกระดูกจะเสื่อมมาก แต่กลับไม่เจ็บเลย เพราะโพรงประสาทมีขนาดใหญ่ ขณะที่บางคนโครงสร้างเล็ก มีความเสื่อมนิดเดียวก็ปวดทรมานอย่างหนัก เรื่องนี้ทำให้การวินิจฉัยและรักษาต้องอาศัยความเข้าใจแบบรายบุคคล ไม่ใช่ใช้สูตรเดียวกันหมด


ผ่าตัดกระดูกสันหลังไม่น่ากลัวอีกต่อไป
อดีตผู้คนส่วนมากเคยมีความกลัวว่า ผ่าตัดกระดูกสันหลัง = เสี่ยงพิการ แต่วันนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ได้ก้าวล้ำไปไกล โดยเฉพาะการ "ผ่าตัดส่องกล้อง (Endoscopic Spine Surgery)" ที่ไม่ต้องเปิดแผลใหญ่ แต่ใช้กล้องขนาดเล็กความละเอียดสูงสอดเข้าไปในช่องกระดูก ทำให้เห็นตำแหน่งปัญหาอย่างแม่นยำและลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง "รูแผลมีขนาดเพียง 8 มิลลิเมตร ผู้ป่วยเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว ลดภาวะแทรกซ้อน และมีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วกว่ามาก"

นพ.เมธีกล่าวต่อว่า ในอนาคตอันใกล้ การผ่าตัดเปิดแบบเดิมอาจเหลือไว้ใช้เฉพาะกรณีซับซ้อนจริง ๆ ขณะที่เทคนิคส่องกล้องจะกลายเป็นมาตรฐานหลักในการรักษาโรคกระดูกสันหลัง


รักษาอย่างเดียวไม่พอ ต้องป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ
ในฐานะแพทย์ผู้เห็นผู้ป่วยจริงทุกวัน เขาเน้นย้ำว่า การรักษาที่ดีที่สุดคือ "การป้องกันไม่ให้เกิดโรคแต่แรก" เช่น หลีกเลี่ยงการนั่งท่าไม่เหมาะสม นั่งพื้นหรือนั่งพับเพียบ ควบคุมน้ำหนัก และลดการใช้งานมือถือในท่าก้มหน้าเป็นเวลานานและที่สำคัญไม่แพ้กัน นพ.เมธียังฝากถึงลูกหลานในครอบครัวว่า "ควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของผู้สูงอายุในบ้าน หากมีอาการปวดหลังเรื้อรัง เดินไม่ถนัด ปลายมือปลายเท้าชา หรือมีการทรงตัวที่เปลี่ยนไป นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคกระดูกสันหลังที่ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว" เพราะหากพบและรักษาได้ทันท่วงที ย่อมลดโอกาสเสื่อมหนักและฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่าการปล่อยให้อาการลุกลาม สุขภาพกระดูกสันหลังคือผลสะท้อนจาก วิธีคิดและวิธีใช้ชีวิต ของเรา หากเราปรับได้ตั้งแต่วันนี้ เราก็จะใช้ชีวิตในวัยสูงอายุอย่างแข็งแรง มีคุณภาพ และไม่เป็นภาระลูกหลาน

เชิญชวนแพทย์ร่วมขับเคลื่อนมาตรฐานใหม่
นอกจากการดูแลคนไข้แล้ว นพ.เมธี กล่าวว่าตนพร้อมเปิดโอกาสให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่สนใจการผ่าตัดส่องกล้อง ได้เข้ามาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความรู้กันอย่างเปิดกว้าง เพื่อให้ทุกพื้นที่ได้ช่วยกันดูแลสังคมผู้สูงอายุในไทยทั่วถึงมากที่สุด "จากประสบการณ์ผ่าตัดมาแล้วกว่า 5,000 เคส ผมยินดีแบ่งปันเทคนิคและแนวคิด เพื่อให้เกิดการพัฒนาแพทย์ไทยรุ่นใหม่ที่เชี่ยวชาญด้านนี้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังมีอยู่ไม่ถึง 10 คนในประเทศ เราจำเป็นต้องเร่งพัฒนา เพราะโรคนี้จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทยอีกไม่นาน" นพ.เมธี ภัคเวช กล่าว

ศูนย์ผ่าตัดส่องกล้อง KLD โรงพยาบาลคามิลเลียน ปรึกษา โทร.062 3651788


บทความที่เกี่ยวข้อง
นาโนเทค สวทช.-สภาเภสัชกรรม-สปสช. ร่วมนำร่องผลักดันชุดตรวจคัดกรองโรคไตในร้านยา
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ร่วมกับสภาเภสัชกรรม และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมมือผลักดัน ชุดตรวจคัดกรองโรคไต ที่พัฒนาและผลิตในไทยเข้าสู่ระบบ สปสช. ผ่านร้านขายยาในโครงการ
19 ธ.ค. 2024
StemCell คืออะไร  ทำไมถึงเป็นแนวทางการดูแลรักษาแห่งอนาคต
สเต็มเซลล์ (Stem Cell) คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสามารถแบ่งตัวได้อยู่เสมออย่างไม่จำกัด โดยสามารถพัฒนาเป็นเซลล์อื่น ๆ ได้ เช่น เซลล์ผิวหนัง เซลล์เม็ดเลือด เซลล์เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เซลล์กระดูก และเซลล์ไขมันได้ตามแหล่งต้นกำเนิดที่แตกต่างกัน
7 ธ.ค. 2024
BMHH  พร้อมเปิดนวัตกรรมทางเลือกใหม่ dTMS รักษาโรคซึมเศร้า
BMHH เปิดนวัตกรรมการรักษาโรคซึมเศร้าล่าสุดด้วย dTMS (Deep Transcranial Magnetic Stimulation ที่ศูนย์โรคซึมเศร้าแบบครบวงจร (Comprehensive Depression Center) ให้บริการที่ครอบคลุมทุกมิติ
4 พ.ย. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy